น้ำเสียจากห้องครัว

งานครัวเป็นแหล่งสร้างน้ำเสียที่อุดมไปด้วยไขมัน สารอินทรีย์และอนินทรีย์ และเมื่อมีการใช้น้ำยาล้างจาน ยิ่งช่วยให้เกิดการกระจายตัวของน้ำมันและไขมันดียิ่งขึ้น ไม่แยกชั้นอย่างสมบูรณ์ในถังดักไขมัน

น้ำมันจากไขมันที่เกิดจากการทำอาหาร เมื่อไหลลงสู่ท่อเพื่อเข้าถังดักไขมัน จะปรากฎ 3 รูปแบบดังนี้

  1. รูปแบบ Free oil: พบในปริมาณมากที่สุด มักจะลอยขึ้นบนผิวหน้าของน้ำล้าง และจะถูกดักได้ด้วยถังดักไขมัน จึงต้องทำการตักไขมันออกเป็นประจำ
  2. รูปแบบ Mechanically emulsified oil: เกิดจากการกวน/คน ทำให้ free oil (โดยเฉพาะจากไขมันพืช) ถูกชะล้างด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิสูง บางส่วนแตกเป็นเม็ดเล็กๆ มีน้ำล้อมรอบ มีขนาดประมาณ 10-20 ไมครอน และสามารถแยกตัวลอยขึ้นผิวน้ำถ้ามีเวลาแยกที่เพียงพอ แต่โดยปกติมักมีไม่พอ ไขมันประเภทนี้จึงไหลเข้าสู่ระบบบำบัด หรือท่อระบายน้ำสาธารณะไปเลย
  3. รูปแบบ Chemically emulsified oil: เกิดการแตกตัวของไขมันเนื่องจากน้ำยาล้างจานและความเป็นด่าง เป็นอนุภาคขนาดเล็กมากน้อยกว่า 1 ไมครอนและจะไม่แยกชั้นไม่ว่าจะทิ้งเวลานานเท่าไรก็ตาม จึงมักจะมีผลต่อปริมาณ total grease ในน้ำทิ้งของห้องครัว ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาของน้ำเสียจากห้องครัวคือ ลดการเกิด emulsify ตั้งแต่แรก ด้วยการใช้ detergent ที่แยกน้ำกับน้ำมันได้อย่างรวดเร็ว

ในปี 1980 ขึ้นไป มหาวิทยาลัยหลายแห่งในรัฐวอชิงตัน และรัฐวิสคอนซิล ได้ทำการศึกษาพบว่า grease trap ที่ออกแบบให้มีเวลาแยกชั้นไขมันกับน้ำได้อย่างเพียงพอ จะสามารถลด oil & grease ลงได้ 50-60% และลดค่า BOD และ TSS ได้ 50-80% และการเลือกใช้ detergent ที่ดี ที่ทำให้เร่งการแยกน้ำกับไขมัน จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของ grease trap ได้มากขึ้น

อ้างถึงบทความและการทดลองเรื่อง Grease and oil in restaurant wastewater ของเมือง Barnstable รัฐแมสซาชูเสต สหรัฐอเมริกา เพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญของการดักไขมันออกจากระบบ ก่อนน้ำเสียจะไหลเข้าสู่ระบบบำบัดรวม

น้ำเสียจากห้องครัว มีสารอินทรีย์และไขมันมากกว่าน้ำทิ้งทั่วไปมาก จึงเป็นการดี ถ้าจะลดภาระของระบบบำบัด และลดการอุดตันของท่อน้ำทิ้งในอาคาร และเป็นระบบท่อทางสาธารณะด้วย การปรับวิธีการปฎิบัติงานในห้องครัว จะเป็นวิธีการที่ประหยัดและได้ผลมาก ดังนี้

  1. ให้พนักงานล้างจานกวาดเศษอาหาร/คราบมัน/ครีม/น้ำสลัด/น้ำเกรวี่ ออกจากภาชนะให้มากที่สุด วิธีนี้จะจำกัดค่า oil & grease ออกไปได้มากที่สุด
  2. ติดตั้ง grease trap หรือ oil skimmer
  3. ประหยัดน้ำในการล้าง เพราะจะช่วยให้มวลน้ำทิ้งจากครัว ไม่เกิดแรงกระแทกมาก และไม่ overload flow นำไขมันที่ยังไม่แยกชั้น เข้าสู่ระบบบำบัดเร็วเกินไป
  4. เลือกใช้โหมด low temperature ของเครื่องล้างจาน ในช่วง sanitizing rinse จะช่วยลดการ emulsify ทำให้การแยกชั้นของไขมันดีขึ้น
  5. เลือกใช้น้ำยาล้างจานที่ช่วยทำให้การแยกน้ำกับน้ำมันทำได้เร็วขึ้น
  6. จำกัดการใช้สารละลาย และตัวทำความสะอาด และ สารฆ่าเชื้อ ให้เหมาะสม ไม่ควรใช้มากเกินไป เพราะสารละลาย และตัวทำความสะอาด ทำให้การละลายของไขมันในน้ำดี จนยากจะกำจัดออกที่บ่อดักไขมัน และการใช้สารฆ่าเชื้อมากเกินไป ก็ทำให้จุลินทรีย์ที่ย่อยสลายไขมันลดจำนวนลงด้วย
  7. ทำความสะอาด grease trap เป็นประจำ และ ให้ตักเฉพาะไขมันที่ลอยที่ผิวหน้าออกไป และดูดส่วนของ sludge ก้นถัง ส่วนน้ำไม่ควรดูดจนหมด เพราะจะได้เอาไว้ช่วยลดอุณหภูมิน้ำทิ้งที่จะเข้ามาครั้งใหม่

น้ำมันและไขมันที่ลอยบนผิวหน้าของบ่อบำบัด จะปิดกั้นการละลายของออกซิเจนในน้ำ ทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้อากาศเติบโต ซึ่งจุลินทรีย์ประเภทนี้จะมีความสามารถในการย่อยสลายสารอินทรีย์ต่ำกว่าจุลินทรีย์ที่ใช้อากาศมาก แถมยังทำให้มีกลิ่นเหม็นด้วย การจัดการที่ไม่เหมาะสมและเพียงพอ เป็นต้นเหตุของการอุดตันท่อทางในระบบบำบัดน้ำเสีย รวมถึงเร่งการอุดตันในท่อระบายน้ำสาธารณะอีกด้วย

บริษัท เอ็นไวโรเมท จำกัด เรามีผลิตภัณฑ์และทีมงานที่จะไปช่วยแนะนำแนวทางในการจัดการกับปัญหานี้ได้ โทร ชนิศา 086-355-2898 (ยกเลิกเบอร์ 081-813-2718)